วานนี้ (15 พ.ย.) ตำรวจกองปราบรามร่วมกับตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เข้าจับกุม บาคาร่าเว็บตรงนายศักดิ์ชัย หรือแจ๊ส ทัพวงค์ อายุ 28 ปี ชาวจ.กำแพงเพชร ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านเอื้ออาทรโครงการ 3 หมู่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง
ตำรวจระบุว่า เมื่อกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์ชัย ผู้ต้องหารู้จักกับน.ส.บี (นามสมมุติ)
ผ่านทางเฟซบุ๊ก พอวันรุ่งขึ้นก็นัดหมายเจอกัน ซึ่งโดยผู้เสียหายยืนยันว่าพูดคุยกันในสถานะคนรู้จัก ต่อมาในคืนวันที่ 25 ต.ค. นายศักดิ์ชัยได้มาหาน.ส.บี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานพีอาร์อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.บางพลี และนั่งอยู่จนร้านเลิก และขณะที่น.ส.บีกำลังจะกลับห้องพัก นายศักดิ์ชัยก็เดินเข้ามากระชากแขน แล้วบอกให้กลับไปด้วยกัน แต่น.ส.บีไม่ยอมก็เลยถูกนายศักดิ์ชัยตบหน้าไปหลายครั้ง รวมทั้งพยายามดึงตัวไปที่รถ แต่มีพนักงานในร้านมาช่วยไว้ได้ทัน นายศักดิ์ชัยจึงขับรถหนีออกไป
ต่อมาเมื่อน.ส.บีเดินทางกลับไปถึงที่พัก ก็เห็นรถของนายศักดิ์ชัยมาจอดรออยู่แล้ว ทำให้ไม่กล้าขึ้นไปที่ห้องพัก เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่านายศักดิ์ชัยพยายามจะงัดห้องพักของ น.ส.บีแต่ทำไม่สำเร็จ ก็เลยรีบลงมา ปรากฏว่ามาเจอน.ส.บีที่ลานจอดรถก็ตรงเข้าทำร้ายน.ส.บีทันที ทั้งเตะและตบจนผู้เสียหายต้องร้องขอให้หยุด นายศักดิ์ชัยก็เลยบอกให้ขึ้นไปคุยกันบนห้องพัก ผู้เสียหายจำต้องเดินตามขึ้นไป ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ก็ถูกนายศักดิ์ชัยทำร้ายร่างกายทันที อีกทั้งครั้งนี้ยังถูกข่มขืนด้วย
ระหว่างที่ข่มขืน นายศักดิ์ชัยยังใช้มือถือถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ด้วย ต่อมาผู้เสียหายต้องรีบติดต่อให้คนที่รู้จักช่วยแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือ ส่วนนายศักดิ์ชัยก็รีบหลบหนีไป วันรุ่งขึ้นนายศักดิ์ชัยก็ข่มขู่น.ส.บีมาทางเฟซบุ๊กว่า จะปล่อยคลิปขณะข่มขืน และโพสต์คลิปดังกล่าวจริงๆ แต่ผู้เสียหายเห็นเข้าก็เลยรีบลบออก ก่อนจะรีบเข้าแจ้งความที่สภ.บางเสาธง กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายศักดิ์ชัยได้
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ชัย ให้การอ้างว่า รู้จักกับน.ส.บีผ่านเฟซบุ๊กได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนจะนัดเจอและคบหากันในฐานะแฟน ในวันเกิดเหตุตนไปหาน.ส.บีที่ร้าน และเห็นว่ากำลังนั่งคุยอยู่กับผู้ชายคนอื่น ทำให้เกิดความหึงหวงและลงมือทำร้ายร่ายกายน.ส.บีจริง
ส่วนเรื่องห้องพักของน.ส.บีนั้น ตนไม่ได้งัด น.ส.บีเป็นคนพาเข้ามาเอง และก็ไม่ได้ข่มขืนด้วย เพราะคบหาเป็นแฟนกันอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่รู้ว่าถูกแจ้งความและมีหมายจับ จึงไม่ได้คิดหลบหนีไปไหน เพราะขณะนี้ตนไม่มีงานทำ ต้องไปอาศัยอยู่กับแฟนอีกคน หลังการสอบสวนตำรวจจึงนำตัวส่งให้สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดี
สิบล้อปาดหน้ารถเมล์จนเสยท้ายรถเมล์อีกคัน ผู้โดยสารเจ็บ 11 ราย
วันนี้ (17 พ.ย.) ตำรวจสน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุรถเมล์สาย 205 สายคลองเตย-ถนนตก ถูกรถเมล์สาย 195 คลองเตย-บิ๊กซีพระประเเดง ชนท้าย ที่ซอยพระราม3 ซอย78 ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย ในที่เกิดเหตุ พบรถเมล์ สีครีมแดง สาย195 มีรอยชนที่บริเวณด้านหน้าซ้าย กระจกหน้ารถแตกร้าว ถัดออกไปข้างหน้า มีรถเมล์อีกคัน สีครีมแดง สาย 205 มีรอยชนเข้าที่บริเวณด้านท้ายรถด้านซ้าย โดยจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามตัว จำนวน 11 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้นำส่ง รพ.เจริญกรุง 4 ราย รพ.กล้วยน้ำไท(1) 3 ราย และ รพ.จุฬา 4 ราย
สอบถาม นายประมูล ศรีละคร อายุ 51 ปี โชเฟอร์ รถเมล์สาย 205 พบว่า นายประมูลขับรถเมล์คันดังกล่าวมาจากคลองเตยในเลนซ้ายสุด โดยมีรถเมล์สาย195 ขับตามกันมา จนกระทั่งมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งบริเวณเกาะกลางถนนมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกสุนทรโกษา ขณะนั้นเองมีรถบรรทุกดิน 10 ล้อของโครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าว เลี้ยวออกมาจากไซต์งานก่อสร้าง และขับออกมาปาดหน้ารถเมล์ของตนอย่างกระชั้นชิด ตนเองจึงเหยียบเบรกอย่างแรงก่อนที่จะมีรถเมล์สาย 195 ที่ขับตามหลังมาและเบรกไม่อยู่ และชนท้ายอย่างจัง
ส่วน น.ส.วารุณี พิกุลแก้ว อายุ 19 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสารรถเมล์สาย195 เปิดเผยว่า ขณะที่รถเมล์คันของตนเองขับตามท้ายรถเมล์สาย 205 มาตามเส้นทางปกติมาเรื่อยๆ จู่ๆก็มีรถบรรทุกดินตัดหน้ารถเมล์สาย 205 ซึ่งรถเมล์คันของตนเองก็เหยียบเบรกสุดแรงแต่เบรกไม่อยู่ โชเฟอร์ตะโกนขึ้นมาว่าเบรกไม่อยู่แล้ว ก่อนจะมีเสียงดังโครม และมีผู้โดยสารกระเด็นกระจัดกระจายภายในรถเมล์และได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่น.ส.ปราณี ชัยศรี 40 พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นรถบรรทุกดินขับออกมาจากไซต์งานก่อสร้าง มาปาดหน้ารถเมล์โดยที่ไม่มีคนงานหรือเจ้าหน้าที่คนไหนออกมาโบกธงหรือโบกรถเพื่อให้รถบรรทุกออก และมักมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งหวิดเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็หลายครั้ง ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพราะตั้งแต่มีการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่เคยมีคนมาดูแลจริงจัง หลายครั้งมีเศษดินตกหลบบนผิวทางหลายครั้ง รถจักรยานยนต์ที่สัญจรมาก็พลิกคว่ำไปหลายครั้ง ครั้งนี้อีกเช่นกันที่ไม่มีคนงานที่คอยโบกหยุดรถ
เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายรถเมล์ทั้ง 2 คันออกจากที่จุดเกิดเหตุ และอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แจ้งจริงหากพบว่าเป็นความประมาณของผู้ใดจึงจะแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีบาคาร่าเว็บตรง